ศึกษาดูงานโครงการต่างๆของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ “ครูปาน” คุณสมนึก คลังนอก ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมแม่บ้านตำรวจ พล.ต.ต.หญิง วิรญา พรหมายน หัวหน้าสำนักงานสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมคณะสมาคมแม่บ้านตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. และ พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ สมันตรัฐ รอง ผบก.ศอพ.บช.ตชด. และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ ให้การต้อนรับ

”ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เดิมเป็น ป่าโปร่ง คนไปตัดไม้สำหรับเป็นฟืนและสำหรับเผาถ่าน ต่อจากนั้น มีการปลูกพืชไร่และสับปะรดจนดินจืดกลายเป็นทราย ถูกลมและน้ำชะล้างไปหมด จนเหลือแต่ดินดาน ซึ่งเป็นดินที่แข็งตัวเมื่อถูกอากาศ ดินนี้ก็ไม่มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์“ พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

แต่เดิมสภาพภูมิประเทศในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก แต่ภายหลังได้มีราษฎรเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า ทำลายป่า ทำการเกษตรอย่างผิดวิธี และใช้สารเคมีที่ส่งผลเสียต่อดินและน้ำ ขาดการบำรุงรักษาคุณภาพดิน ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเปลี่ยนแปรสภาพไปอย่างรวดเร็ว หน้าดินถูกชะล้างความอุดมสมบูรณ์ไปหมดสิ้น ดินกลายเป็นดินทรายและดินดานที่ไม่มีแร่ธาตุ ความสมดุลทางธรรมชาติถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงความแห้งแล้งของพื้นที่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงมีพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมด้วยการปลูกป่า และจัดหาแหล่งน้ำโดยจัดให้ราษฎรที่ทำกินเดิมได้มีส่วนร่วมในการรักษาป่าไม้และได้ประโยชน์จากป่าไม้ควบคู่ไปกับการพัฒนาเกษตรกรรมที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาอาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำรินี้ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟู ปรับปรุง และรักษาป่าไม้และสภาพแวดล้อมให้เกิดความชุ่มชื้นในพื้นที่โครงการ และบริเวณใกล้เคียงให้กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ และเป็นศูนย์รวมในการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย และแสวงหาแนวทาง ตลอดจนวิธีการพัฒนาด้านต่างๆ ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม พร้อมทั้งเพื่อพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับราษฎรในบริเวณศูนย์ฯ และใกล้เคียงให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้เยังให้ศูนย์ฯ เป็นสถานที่ให้ความรู้และศึกษาดูงานแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ตลอดจนสามารถปรึกษาขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้ และยังให้ศูนย์ฯ เป็นสถานที่สำหรับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรอิสระ และอื่นๆ ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดและประสานงานกัน อันจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงานร่วมกัน

นอกจากนั้นแล้วประโยชน์ที่ได้รับจากผลของการดำเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นับเป็นรูปแบบการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสื่อมโทรมที่ประสบผลสำเร็จ อันเป็นแบบอย่างที่ดีในการนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาในพื้นที่
อื่น ๆ ที่มีปัญหาในลักษณะใกล้เคียงกัน จากสภาพความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ ดิน น้ำ ป่าไม้ และสัตว์ป่า เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกทำลายเปลี่ยนแปลงกลายเป็นไร่สับปะรด พื้นดินเสียหายเสื่อมโทรม ไม่สามารถเพาะปลูกพืชใด ๆ ได้ ณ บัดนี้ ผืนดินที่เคยแห้งแล้งดังกล่าว ได้พลิกฟื้นกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์เช่นเดิมอีกครั้ง ทั้งป่าเขาต้นน้ำลำธาร สัตว์ป่า โดยเฉพาะเนื้อทราย แม้แต่ราษฎรที่ได้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินนี้ ก็ได้รับการพัฒนาจนสามารถพึ่งตนเองได้ และมีความอยู่ดีมีสุขในวิถีชีวิตตามอัตภาพของตนเอง

การดำเนินการศึกษา ทดลอง วิจัย ตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ รวมถึงแนวทางการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 43 เรื่อง ซึ่งได้จัดทำเป็นหลักสูตรการฝึกอบรม จำนวน 8 หลักสูตร จัดทำเป็นเอกสารประกอบการฝึกอบรม จำนวน 11 เรื่อง และจัดทำเป็นเอกสารองค์ความรู้เพื่อเผยแพร่ จำนวน 48 เรื่อง ซึ่งผลงานล่าสุด ได้แก่ เกษตรทันสมัย นวัตกรรมง่าย ๆ ทำเองได้ไม่ยาก การผลิตน้ำส้มควันไม้ การผลิตน้ำหมักชีวภาพ เทคนิควิธีการปลูกหญ้าแฝก ในการปรับปรุงและพัฒนาดินที่แข็งเป็นดานเพื่อการปลูกพืชและถ่านชีวภาพ

ปัจจุบันกำลังดำเนินการสนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่ได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อครั้งเสด็จ ฯ ไปติดตามผลการดำเนินงานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 ด้วยการจัดสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรบ้านห้วยโสกและโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโป่งลึก อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี แล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ต่อมา ได้ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงาน กปร. และศูนย์พัฒนาพันธุ์สัตว์พระราชทานด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ดำเนินการจัดฝึกอบรมให้ความรู้การเลี้ยงไก่และสูตรอาหารไก่ไข่ให้แก่ครู นักเรียนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรบ้านห้วยโสกและโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโป่งลึกเจ้าหน้าที่ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ และเจ้าหน้าที่ของโครงการศึกษาและฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มจังหวัดราชบุรี ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ โดยเป็นการอบรมในลักษณะการให้ความรู้ทางวิชาการ พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติผสมอาหารไก่ไข่ และให้การสนับสนุนยานพาหนะในการขนส่งพันธุ์ไก่ไข่ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั้งสองโรงเรียนดำเนินการจัดชุดเจ้าหน้าที่ขยายผล ลงพื้นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ขยายผลหมู่บ้านรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ เพื่อส่งเสริมให้ความรู้ และแนะนำสนับสนุนเกษตรกร ส่งเสริมเกษตรกรให้ทำการเกษตรแบบผสมผสาน การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ การทำวนเกษตร การทำเกษตรอินทรีย์ การปลูกผักหมุนเวียน การเลี้ยงเป็ด การเลี้ยงแพะ การเลี้ยงโคเนื้อ – โคนม การเลี้ยงไก่ไข่ การทำการเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย การทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย

การดำเนินการพัฒนาองค์กรเพื่อเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริและศูนย์กลางการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ฯ โดยการจัดฝึกอบรมบุคลากรให้มีความพร้อมในการถ่ายทอดขยายผลความรู้และเทคโนโลยี และปรับปรุงเอกสารองค์ความรู้เพื่อแจกจ่าย รวมถึงปรับปรุงระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ผ่านทาง Social Network ได้แก่ เว็บไซต์ www.huaysaicenter.org มีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จำนวนรวมทั้งสิ้น 431,962 คน